24/2/55

ตะลอนเที่ยว (2)..ให้อาหารแกะ @สวนผึ้ง จ.ราชบุรี



ครั้งหนึ่งมีโอกาสได้มาเที่ยวที่จังหวัดราชบุรี  
ทริปนี้มากับครอบครัวเมื่อตอนก่อนเข้าปี มั๊ง ถ้าจำไม่ผิด 

^________________________________________^


ราชบุรี...ใครว่ามีแต่โอ่ง
               
พูดถึงราชบุรี ใครๆ ก็จะต้องนึกถึงโอ่งราชบุรี ซึ่ง ตั้งแต่เรามาราชบุรี ยังไม่เห็นโอ่งสักใบเลย 
อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้เข้าไปในตัวเมืองก็ได้มั้ง คือเราเที่ยวที่ อ.สวนผึ้งอะ 
ระหว่างทางที่ผ่านนั้นก็จะพบกับรีสอร์ท หรือ ร้านรวงต่างๆ มากมาย 
ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะตกแต่งตามสไตล์เมดิเตอร์ริเนียน 


ซึ่งก็ดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพ ให้ลงไปแวะเวียนถ่ายรูปตามๆ กัน 
ซึ่งที่ที่เราไปคือ The Scenery Vintage Farm ไปให้อาหารแกะ ซึ่งเสียค่าเข้าชมก่อน คนละ 35 บาท 
ซึ่งบัตรผ่านประตูนี้ จะมีหางบัตร สามารถนำไปแลกหญ้าได้ 1 กำ เอาไว้ให้อาหารแกะได้ 
อากาศก็ร้อนตามสไตล์เมืองไทยอยู่แล้ว ซึ่งการเข้าชม เราจะไม่ได้รับสิทธิ์ให้เข้าไปในส่วนของ
ที่เป็นรีสอร์ทที่พัก ซึ่งเค้าว่ากันว่า สวยมากๆๆ แต่ไม่เป็นไรเราเที่ยวชมข้างนอกก็พอ 


ซึ่งพอเราเข้ามาก็จะพบกับร้านขายของที่ระลึก ก็เข้าไปเดินดูนู่นดูนี่ ตามประสาคนที่อยากตากแอร์ ^^
  เมื่อเราพร้อมแล้ว ก็ออกมาจากร้าน แล้วก็เดินลงมาตามสนามหญ้าซึ่งจะมีรูปปั้นแกะ 
ให้ถ่ายรูปเล่นกันด้วย  เดินมาจนถึงกรงแกะ ซึ่งเป็นสนามหญ้าใหญ่มาก
 เราก็เลยเอาหางบัตรไปแลกอาหารแกะ แล้วก็เข้าไปให้มัน  มันตัวใหญ่มากๆๆๆ


 แต่ละตัวก็วิ่งตรงมาที่เรา เพราะมันเห็นว่าเรามีหญ้าอยู่ในมือ 
เจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าแกะที่นี่จะเป็นแกะพันธุ์เนื้อ คือเลี้ยงไว้เอาเนื้อไปทำอาหาร 
ไม่ได้เลี้ยงไว้ตัดขนไปทำเสื้อผ้า ถึงว่าขนมันแบบ ไม่ฟู เหมือนกับเกมส์ Harvest Moon ที่เราเคยเล่นเล
^^ ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าให้อาหารแกะมันสนุกดี มันสนุกตรงที่เราหลอกให้มันวิ่งตามเนี่ยแหละ
 แล้วหน้ามันตอนมันกินหญ้าน่ะ แบบ ตาเหลือก ตาปริ้นอ่า น่ารักดี ซึ่งเมื่ออาหารหมดแล้ว เราสามารถซื้อหญ้าเพิ่มได้ กำละ 20 บาท สรุปเสียเงินกับอาหารแกะไป เกือบร้อยบาท 
ข้างๆ กับคอกแกะ ก็จะมีร้านขายของฝากอีกหนึ่งร้าน 
ซึ่งข้างหน้าก็จะมีเป็นไอศกรีม กับน้ำชาผสมน้ำผึ้งให้ได้ดื่มกัน 


ที่ อ.สวนผึ้งนี้ ดังมากเรื่องน้ำผึ้ง ตามชื่อของอำเภอแหละคะ เพราะว่าแต่ก่อน
 ที่นี่จะมีต้นไม้อยู่ต้นนึงซึ่งมีอยู่เยอะมากในบริเวณนี้ ซึ่งผึ้งชอบมาทำรังกัน 
ชาวบ้านก็เลยนำมาทำน้ำผึ้งกันเป็นล่ำเป็นสัน แต่ปัจจุบันต้นไม้นี้ไม่ค่อยพบแล้ว 
อาจเป็นเพราะการมาของบรรดารีสอร์ทก็เป็นได้นะคะ ซึ่งเราก็เลยลองซื้อดื่มดูสัก 1 แก้ว ราคาประมาณ 25 บาท ก็ชื่นใจดี จากนั้นก็เข้าไปซื้อโปสการ์ดสวยๆ สักใบ แล้วก็ส่งไปให้แม่ที่บ้าน
 (ตอนนั้นคิดถึงแม่มากๆ เลย) จากนั้นหาซื้อเสื้อสักตัวเป็นของฝากให้ตัวเอง 
แล้วก็ออกจากฟาร์ม ระหว่างทางแวะทานอาหารที่ร้านครัวม่อนไข่ อาหารอร่อยดี 
โดยเฉพาะยำผักกูด กับ เห็ดโคนญี่ปุ่นผัดน้ำมันหอย 


พอกินกันจนอิ่มก็เดินเดินทางต่อไป
ยังบ้านเทียนหอม ซึ่งอยู่ในอำเภอเดียวกัน บรรยากาศก็ดี เหมือนตั้งอยู่บริเวณเนินเขา 
ซึ่งที่บ้านหอมเทียนนี้ เราจะได้พบต้นไม้ที่ผึ้งชอบอยู่นั้น (ไม่รู้ชื่ออะไร) อยู่ด้านหน้าเลย
 เค้าบอกว่าหาดูได้ยากมาก จากทางเข้าไปเดินขึ้นไปเรื่อยๆ จะมีที่ให้แวะถ่ายรูป ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า ทุกอย่างทำมาจากเทียนทั้งหมดเลย แม้กระทั่งคนขาย (อันนี้ก็เวอร์ไปนะ) 



พอเข้ามาด้านใน ขอบอกว่าสวยมาก บรรยากาศก็ดีนะ ติดตรงเหม็นควันเทียนไปหน่อย
 แล้วก็อากาศมันก็อบอ้าวด้วยแหละ ก็เลยเวียน ๆ หัว เดินขึ้นไปเรื่อยๆ 
ก็มีที่ที่ให้เราสามารถทำเทียนด้วยตัวเองด้วยนะ น่ารักดี ราคาก็ประมาณ 200 – 400 บาท


                ซึ่งต้องขอบอกว่าทริปการมา ราชบุรีในครั้งนั้นสนุกมาก 
จริงๆ แล้วการไปท่องเที่ยวนั้น มันไม่จำเป็นจะต้องแบบ หวือหวา มากมาย
 บางทีการที่เราได้ไปสัมผัสกับธรรมชาติบ้าง อาจจะมีร้อนบ้าง อะไรบ้าง
 แต่มันก็คือธรรมชาติของเรา มันก็ทำให้เราได้รับความสนุกสนานเหมือนกัน
 แถมได้ความรู้อะไรต่างๆ ไปเยอะแยะเลย 
ไว้เดี๋ยวทริปหน้า เราเคยไปเที่ยวไหนมาบ้าง เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น