28/1/55

เที่ยวอย่างสนุกและมีคุณค่า..เที่ยว "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี" @จันทบุรี


 "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี"
Panichnavee National Museum
  
เราอยู่จันทบุรีมาเกือบทั้งชีวิต มาเที่ยวที่นี่แค่ 2 ครั้งเอง ตอนแรกที่ได้รู้จักคิดว่าคงเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ทั่วไป 
ที่มีของมาตั้งโชว์ แล้วแปะๆ ข้อมูลอธิบายไว้ แต่พอคุณครูให้ทำรายงานก็เลยต้องมา
เห็นจากตัวอาคารด้านนอกแล้วไม่น่าเข้าซะเลย แต่พอเข้าไปถึงกับตลึง..ทั้งหรูหรา กว้างขวาง สะอาด
ที่สำคัญมันมีอะไรที่น่าสนใจให้ดูอีกเยอะเลย... (ไม่เบื่ออย่างที่คิดแฮะ)
ถ้าคิดภาพไม่ออก เราเอาคลิปจากยูทูปมาให้ดู จะได้เข้าใจว่ามันมีดียังไง..

  
 พิพิธภัณฑ์ฯพาณิชย์นาวี เกิดมาจากการที่กรมศิลปากร ได้ตั้งฐานปฏิบัติการโบราณคดีใต้น้ำขึ้น
ที่ท่าแฉลบ และตั้งศูนย์การอนุรักษ์โบราณวัตถุใต้ทะเลขึ้นที่ ค่ายเนินวง ต.บางกจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี
ซึ่งได้มีการสำรวจทางโบราณคดีใต้น้ำพบโบราณวัตถุจากซากเรือจมในอดีตมากมาย
กอปรกับการที่กองทัพเรือสามารถตรวจจับและยึดโบราณวัตถุจากนักล่าสมบัติใต้ทะเลที่ชาวต่างชาติ
แอบมาลักลอบค้นหาในท้องทะเลไทยได้อยู่เรื่อยๆ ซึ่งหลังการตรวจยึดก็จะส่งมาให้กรมศิลป์ดูแลรักษา

อาคารพิพิธภัณฑ์ฯพาณิชย์นาวี โทรมเนอะ แต่ข้างในอย่างหรูอ่ะ

ความที่มีโบราณวัตถุใต้ทะเลอยู่เป็นปริมาณมากนับหมื่นๆชิ้น กรมศิลป์จึงดำเนินการสร้าง
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวีขึ้นในปี พ.ศ. 2537 เพื่อเป็นสถานที่รวบรวมและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับงานทางโบราณคดีใต้น้ำ พร้อมด้วยเรื่องราวของการพาณิชย์นาวีไทย โดยมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ฯ ขึ้นที่ค่ายเนินวง ค่ายโบราณที่สร้างขึ้นรับศึกญวน (เวียดนาม) ในสมัยรัชกาลที่ 3

เรือบรรพนาวิน ใหญ่มากจริงๆ




       พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีลักษณะเป็นอาคารแฝด 2 ชั้น ภายในมีการแบ่งห้องจัดแสดงออกเป็น 6 ห้อง
ซึ่งห้องที่เด่นที่สุดยกให้กับห้องแรกสุดคือ ห้องจัดแสดงสินค้าและวิถีชีวิตชาวเรือ” 
ห้องนี้เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับเรือมีตาหน้ายักษ์ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่กลางห้อง
       
       เรือมีตาหน้ายักษ์ลำนี้ เป็นเรือสำเภาโบราณจำลองขนาดเท่าของจริง(ลำเล็กสุด) เหตุที่เรียกว่าเรือมีตาเพราะ ข้างเรือด้านนอก ฝั่งซ้าย-ขวา เยื้องไปทางฝั่งหัวเรือ มีการวาดตาเรือกลมๆ มีตาดำ-ตาขาว
เหมือนตาคน ซึ่งเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์อธิบายไว้ว่า
       
       “ตาเรือแบบนี้เป็นตาเรือสินค้า ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าตาดำมองออกไปยังเบื้องหน้า 
ส่วนถ้าเป็นเรือที่มีตาดำมองเหลือบต่ำลงไปในทะเลนั่นคือเรือประมง แต่ถ้าเจอเรือที่มีรูปตาตัดเหลือเพียงครึ่งเดียวลอยมาหา ก็ต้องหนีทันทีเพราะนั้นคือเรือโจรสลัด

หุ่นจับกัง บนชั้น ของเรือบรรพนาวิน
   
    ส่วนที่บอกเป็นเรือหน้ายักษ์ เพราะที่ด้านหน้าเรือวาดลวดลายเป็นรูป ราหู ดูขรึมขลัง 
ซึ่งราหูถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ชาวเรือเคารพนับถือ ขณะที่ด้านหลังของเรือลำนี้วาดเป็นรูปนกฟีนิกซ์เกาะอยู่
บนภูเขากลางทะเล หมายถึงความเป็นอมตะ ฆ่าไม่ตาย ชาวเรือเปรียบดังเรือไม่ล่ม ไม่จม ใต้ตัวนกฟีนิกซ์เขียนชื่อบอกให้รู้ว่าเรือลำนี้ชื่อบรรพนาวินซึ่งหมายถึงบรรพบุรุษแห่งการเดินเรือ

ไต้ก๋ง ยืนคุมงานบนดาดฟ้าเรือ

เรือบรรพนาวินแบ่งเป็น 2 ชั้น นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปในเรือเดินชมห้องต่างๆในชั้นล่างและชั้น 2 ของเรือได้
       บนชั้น 2 หรือชั้นบนของเรือ บนนั้นมีองค์ประกอบสำคัญๆของเรือสำเภาโบราณจัดแสดงไว้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ใบเรือ พังงาเรือ ลูกตะเภาสำหรับกันเรือกระแทกที่ทำด้วยหวาย ร่วมด้วยการจัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวเรือสมัยก่อน มีจับกังหรือกุลีหรือจุมโผ่ แบกหามกระสอบสิ่งของต่างๆ มีคนดึงเชือกใบเรือ 
หรือ อาปั๋นกำลังทำท่าสาวดึงใบเรืออย่างขะมักเขม้น ส่วนไม่ไกลกันมีเฒ่าเต้งมาทำหน้าที่คอยดูแลสมอเรือ โดยมีกัปตันเรือหรือจุ่มจู๊หรือไต้ก๋งยืนคุมคนงานอยู่บนชั้นดาดฟ้าอีกที
ชาวเรือกับไม้เกาหลังประจำตัว
   
จากชั้นบนลงมาต่อกันที่ชั้นล่าง เป็นส่วนของท้องเรือ ระวางเรือ จัดแสดงสินค้า ไหสี่หูเคลือบน้ำตาลดินของสิงห์บุรี เครื่องเคลือบสังคโลกเขียวไข่กา ผ้าไหมแพรพรรณที่นำมาจากจีน เครื่องเทศ ไม้ฝาง และทองแดงที่ซื้อมาเป็นทั้งวัสดุใช้ทำประโยชน์และเป็นอับเฉาเรือไปในตัว
      
       ในชั้นล่างเรือยังมีการจัดแสดงวิถีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายตามอัตภาพของชาวเรือ รวมถึงยังมีสิ่งชวนให้ผมฉงนก็คือ (หุ่น) ชาวเรือ 2-3 คน ต่างมีไม้เกาหลังประจำตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่อธิบายว่า ชาวเรือสมัยก่อนนานๆ จะได้อาบน้ำที ทำให้แต่ละคนเป็นโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน มีอาการคันคะเยออยู่บ่อยครั้ง จึงต้องพกไม้เกาหลังติดตัว เอาไว้ช่วยเกาในส่วนที่มือเอื้อมไปไม่ถึง

โบราณวัตถุที่ขุดพบจากในทะเล
    
 นอกจากไฮไลท์เรือบรรพนาวินแล้ว ในห้องนี้ยังมีข้าวของเครื่องใช้โบราณที่นำมาจากแหล่งเรือจม
ไม่ว่ะเป็น คันฉ่อง(กระจก) เครื่องถ้วยสังคโลก เหรียญเงินสมัยราชวงศ์ถัง จี้ทองคำฝังพลอยแดง กำไลข้อมือทองคำ แหนบ กุญแจจีน เบ็ด ไข่เป็ด ก้างปลา และ ฯลฯ ซึ่งข้าวของโบราณเหล่านี้สันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในช่วงอยุธยาตอนกลางถึงตอนปลาย หรือเมื่อราวๆ 300-400 ปีที่แล้ว
การจำลองการทำงานของทีมนักโบราณคดีใต้น้ำ
http://www.manager.co.th/images/blank.gif

  จากห้องแรกห้องไฮไลท์ ยังมีอีก 5 ห้องที่เหลือให้เดินเที่ยวชมกันได้แก่  
      
 ห้องแนะนำปฏิบัติการโบราณคดีใต้น้ำ
ห้องนี้ให้คำอธิบาย คำจำกัดความเกี่ยวกับงานทางโบราณดคีใต้น้ำ เริ่มตั้งแต่ประวัติความเป็นมา โบราณคดีใต้น้ำคืออะไร แตกต่างจากโบราณคดีบนบกอย่างไร พร้อมกับมีการจำลองวิถีการทำงานของนักโบราณคดีใต้น้ำของทีมงานจากเรือบางกระชัย 4 มาจัดแสดง
      
 ห้องคลังเก็บโบราณวัตถุ
 เป็นห้องที่แสดงให้เห็นถึงการเก็บรักษาโบราณวัตถุภายในพิพิธภัณฑ์นับหมื่นๆชิ้น ที่ปกติพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วๆไปจะไม่เปิดเผยความลับ ของดี แบบนี้ให้คนทั่วไปชม แต่ที่นี่เขาเปิดช่องกระจกให้ชมกันเป็นบุญตา


เรือประเภทต่างๆในห้องแสดงเรือและชีวิตชาวเรือ


http://www.manager.co.th/images/blank.gif
  “ห้องแสดงเรือและชีวิตชาวเรือ
ห้องนี้จัดแสดงเรือประเภทต่างๆในบ้านเรา ทั้งเรือขุดและเรือต่อ เท่าที่จะหาได้ ทำเป็นโมเดลเรือจำลอง ย่อสัดส่วนขนาดตามของจริงลงมา มีทั้ง เรือพระราชพิธี เรือรบสมัยใหม่ เรือสำเภา และเรือพื้นบ้านที่บางลำกลายเป็นตำนาน บางลำหาดูได้ยากเต็มทีในยุคนี้ พ.ศ.นี้ อาทิ เรือผีหลอก เรือพายม้า เรือหมู เรือแม่ปะ เรือหางแมงป่อง เรือสำเภา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีซากเรือโบราณอายุประมาณ 200 ปี ขุดขึ้นมามาจากไม้ตะเคียนต้นเดียวแต่ว่ายังขุดไม่เสร็จ ซึ่งสันนิษฐานว่าที่ไม่อาจขุดเรือลำนี้ให้เสร็จลงได้ อาจเกิดจากการที่ชุมชนที่ขุดเรือโยกย้ายถิ่นฐานไปเสียก่อน เกิดจากการขึ้นรูปเรือผิดพลาดจนไม่สามารถขุดลุล่วงให้เป็นเรือได้ หรืออาจเกิดจากความแรงความเฮี้ยนของไม้ตะเคียน
      
 “ห้องของดีเมืองจันท์
จัดแสดงของดีเมืองจันท์ที่เราๆคุ้นชื่อ อาทิ พลอย ผลไม้ เสื่อ ฯลฯ และประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองนี้ ร่วมด้วยเรื่องราวทางชาติพันธุ์ของชาวชองชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิมของเมืองจันท์
       

 ห้องบุคคลสำคัญ
เป็นห้องที่รำลึก เชิดชูพระมหาวีรกรรมขององค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เน้นไปที่ การทำสงครามเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 เริ่มตั้งแต่เส้นทางเดินทัพเมื่อคราวมารวบรวมพลที่จันทบุรี
       
ใครแวะมาเที่ยวจันทบุรี ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวที่นี่ได้นะ 
รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน เรามีที่อยู่มาให้ เผื่อว่าอยากจะลองมาเที่ยวดู อิอิ

      ตั้งอยู่ที่ หมู่ 8 ค่ายเนินวง ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี

เปิดทำการตั้งแต่วันพุธ-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.
ค่าธรรมเนียมเข้าชม คนไทย 20 บาท ต่างชาติ 100 บาท
นักเรียน นักศึกษา ในเครื่องแบบ และพระภิกษุสามเณร ไม่เสียค่าเข้าชม
ซึ่งผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-3939-1431,0-3939-1433

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น